ออร์แกนิก VS อาหารดั้งเดิม
เทรนด์คนรักสุขภาพ เป็นเทรนด์ที่ได้รับความสนใจจากคน ทั่วโลก แม้แต่สื่อยักษ์ใหญ่อย่าง Times ก็จับประเด็นสุขภาพขึ้นปกบ่อยครั้งมาก อย่างในฉบับวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา หน้าปกของไทม์สฝั่งเอเชีย ยุโรป และเซาท์เอเชีย-แปซิฟิก ยกเว้นหน้าปกของอเมริกา ต่างพร้อมใจวางเรื่องอาหารออร์แกนิกเป็นพระเอกของเล่ม โดยโปรยไว้ที่หน้าปกว่า "ราคาที่แท้จริงของอาหารออร์แกนิก" (The Real Cost of Organic Food) ซึ่งเป็นบทความของ เจฟฟรีย์ คลูเกอร์ (Jeffrey Kluger)
เจฟฟรีย์เริ่มต้นเล่าเรื่องด้วยข้อมูลที่น่าสนใจจากกระทรวงเกษตรของสหรัฐ อเมริกาที่เปิดเผยว่า ในตอนนี้มีอาหารออร์แกนิกในตลาดอาหารของอเมริกาเพียงแค่ 3% เท่านั้น ซึ่งเขากำลังสนับสนุนให้มีอาหารเหล่านี้มากขึ้น
ฟังดูเหมือนจะเป็น เรื่องดี แต่หากลองสำรวจราคาของอาหาร ออร์แกนิกกับอาหารที่ผลิตด้วยวิธีการธรรมดาจะเห็นว่า ที่อเมริกา (น่าจะรวมถึงส่วนอื่นของโลกด้วย) อาหารออร์แกนิกมีราคาสูงกว่ามาก อย่างเช่นนมออร์แกนิก ที่รับรองว่าไม่มีฮอร์โมนและสารปฏิชีวนะ ราคาสูงถึง 6 เหรียญ (ประมาณ 180 บาท) ต่อแกลลอน เมื่อเทียบกับนมที่ผลิตด้วยวิธีการธรรมดา ซึ่งมีราคาเพียง 3.5 เหรียญ (ประมาณ 110 บาท) ต่อแกลลอนเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่การเลือกทานเนื้อวัวไขมันต่ำ จากการเลี้ยงวัวที่ให้กินแต่หญ้ากับนมที่ไร้สารเคมี อาจจะเป็นความคิดที่ดี แต่สำหรับพวกผักและผลไม้ออร์แกนิก มีรายงานการศึกษาชิ้นหนึ่งในปี 2552 จาก The American Journal of Clinical Nutrition ในเรื่องคุณค่าทางอาหาร การศึกษานี้บอกว่าไม่พบข้อแตกต่างระหว่างผักผลไม้ออร์แกนิกกับผักผลไม้ ธรรมดา !
บทความนี้ได้เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างอาหารออร์แกนิ กกับอาหารที่ผลิตด้วยวิธีแบบดั้งเดิมไว้อย่างน่าสนใจ โดยแยกประเภทอาหารออกมาดังนี้ คือ ไข่…ถ้าเป็นไข่ออร์แกนิก ไก่ไข่จะถูกเลี้ยงด้วยอาหารออร์แกนิก อย่างเช่นเมล็ดฝ้าย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มวิตามินเอและโอเมก้า 3 (เชื่อกันว่าลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง โรคหัวใจ ไขข้ออักเสบ และช่วยด้านความจำ) รสชาติดีอีกต่างหาก แถมไก่จะถูกเลี้ยงด้วยสภาพแวดล้อมที่ดี สามารถเดินในที่กว้าง ๆ ได้ ราคาอยู่ที่ประมาณโหลละ 4.39 เหรียญ (136 บาท) ขึ้นอยู่กับเกรดไข่ ส่วนไข่จากกระบวนการเลี้ยงไก่แบบเดิม ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย ราคาประมาณโหลละ 3.79 เหรียญ (117 บาท) ขึ้นอยู่กับเกรดของไข่ นม…ข้อ ดีของนมออร์แกนิก ก็คือไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะและฮอร์โมน ราคาจะอยู่ที่ 6.39 เหรียญต่อแกลลอน ส่วนนมธรรมดา แน่นอนว่า ราคาถูกเพียง 2.89 เหรียญเท่านั้น
เนื้อโค…เนื้อออร์แกนิก มาจากโคที่ถูกเลี้ยงโดยหญ้า ซึ่งส่งผลให้ในเนื้อสัตว์มีสัดส่วนของโอเมก้า 3 มากเป็นพิเศษ และลดความเสี่ยงจากแบคทีเรีย E.coli ที่พบมากในอุจาระ ราคาอยู่ที่ 6.59 เหรียญ (205 บาท) ต่อปอนด์ (0.45 กิโลกรัม) ส่วนเนื้อโคแบบธรรมดา ข้อดี คือเรื่องของรสชาติที่เต็มไปด้วยไขมัน และอีก อย่างหนึ่ง ก็คือราคาไม่แพง 4.49 เหรียญ (139 บาท) ต่อปอนด์
ผักผลไม้…ผักผลไม้ออร์แกนิก จะมีความเสี่ยงในเรื่องสารเคมีน้อยลง แถมยังเป็นอาหารที่อยู่ในท้องถิ่นและตามฤดูกาล รสชาติ ดีกว่าผักผลไม้ที่ขนส่งทางไกลมาจากเรือ อ้อ ! อาหารเหล่านี้ดีต่อโลกเราด้วยนะ ส่วนราคานั้น ยกตัวอย่างกล้วยในตลาดอเมริกา จะขายในราคา 30 บาทต่อหนึ่งลูก ทางฝั่งผักผลไม้แบบเดิม ข้อ น่าสนใจอย่างแรกก็เหมือนเดิม คือราคาถูก อย่างกล้วย ราคาจะอยู่ที่ประมาณลูกละ 13 บาท คุณค่าอาหารไม่ได้แตกต่างจากผักผลไม้ออร์แกนิกอีกด้วย
เมื่อเห็น ข้อมูลอาหารแล้ว ที่น่าสนใจก็คือข้อมูลทางสุขภาพของชาวอเมริกัน ซึ่งทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคภัยไข้เจ็บในแอตแลนตา (The Centers for Disease Control and Prevention in Atlanta) รายงานผลการศึกษาที่น่าสนใจว่าชาวอเมริกันจำนวนถึง 27% ประสบปัญหาอ้วนจนเกินไป และมีถึง 9 มลรัฐด้วยกันที่ประชากรอ้วนเกินมีจำนวนมากถึง 30%
เหตุผล เป็นเพราะว่าชาวอเมริกันผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กกินเนื้อมากเกินไป หากนับเป็นสถิติในปีหนึ่ง พวกเขาแต่ละคนบริโภคเนื้อถึง 220 ปอนด์ (ประมาณ 99 กิโลกรัม) กันเลยทีเดียว และมีประชากรของอเมริกาจำนวนเพียงแค่ 14% เท่านั้น ที่เลือกทานผักและผลไม้ทุกวัน นอกจากนี้ อาหารของพวกเขาเต็มไปด้วยเกลือและน้ำเชื่อม ซึ่งเมื่อคำนวณดูแล้ว ในแต่ละวัน ชาวอเมริกันแต่ละคนบริโภคอาหารกันคนละ 3,800 แคลอรีต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดี เราต้องการพลังงานเพียง 2,350 แคลอรีต่อวันเท่านั้น
ดู จากแนวโน้มทางสุขภาพแล้ว คงต้องถึงเวลาแล้ว ที่ชนชาวอเมริกัน (และคนบ้านเรา) ควรใส่ใจสุขภาพของตัว โดยเริ่มจากการพิจารณาอาหารกันได้แล้ว
แหล่งที่มา : http://www.prachachat.net/
Comment